การใช้จิตวิทยาในการรักษาโรคร้าย

washpsa

โรคร้ายแค่ฟังดูจากคำพูดมันก็คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากพบเจอกันอย่างแน่นอน มันแสดงให้เห็นถึงความไม่ปกติของร่างกาย ซึงเมื่อร่างกายของเรามีภาวะไม่ปกติมันย่อมส่งผลมาถึงสภาพจิตใจที่ปกติคนทั่วไปเวลาป่วยเป็นโรคร้ายต่างๆ ก็มักจะทำให้มีภาวะจิตที่ย่ำแย่ตามไปด้วย เมื่อสภาพร่างกายและจิตใจมันย่ำแย่คู่กันไปหมดโรคที่อยู่ในร่างกายของเรามันก็จะค่อยๆ ทำลายร่างกายของเราไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่มีทางที่จะรักษาให้หายได้

เรื่องของสภาวะจิตใจกับการใช้จิตวิทยาในการรักษาโรคร้าย

ปกติแล้ววิธีที่ใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยทั่วไปก็จะเป็นในเรื่องของการใช้ยาไม่ว่าจะเป็นยากิน ยาทา ยาฉีด การผ่าตัด การใช้สมุนไพร และวิธีการอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นวิธีการเบื้องต้นที่จะช่วยในการบรรเทารักษาอาการป่วยของคนไข้ในการเป็นโรคต่างๆ ได้ ถ้าหากว่าเป็นโรคที่ไม่ได้มีความร้ายแรงอะไรจิตใจของผู้ป่วยเองก็จะเป็นปกติเมื่อทำการรักษาก็คือรอผลให้ยาทำปฏิกิริยาจากนั้นก็รอเวลาให้หายขาดไปเท่านั้นเอง แต่สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคใดโรคหนึ่งที่ไม่สามารถรักษาได้อย่างหายขาด การใช้ยามันก็เป็นเพียงแค่วิธีในการบรรเทาในระดับหนึ่งที่ไม่ได้ช่วยให้การรักษาเป็นผลดีอย่างที่ควรจะเป็นมากนัก และเมื่อผู้ป่วยเริ่มรู้ตัวเองว่าเป็นโรคร้ายไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตามปัญหาที่ตามมาอย่างที่กล่าวเอาไว้ก็คือเรื่องของสภาพจิตใจที่จะย่ำแย่ตามไปด้วยอย่างเห็นได้ชัด ความเครียด คิดมาก อาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ สิ่งเหล่านี้จะโผล่เข้ามาในจิตใจของผู้ป่วยทันที มันยิ่งทำให้อาการป่วยย่ำแย่ลงกว่าที่เคยอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้การนำเอาการรักษาทางด้านจิตวิทยาเข้ามาช่วยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นมากกว่าเดิม

หลายคนคงอาจสงสัยว่าการนำเอาหลักของจิตวิทยาเข้ามาช่วยเหลือจะทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคร้ายได้จริงหรือไม่ ตามหลักความเป็นจริงมันคงไม่ได้สามารถทำให้หายขาดได้แบบ 100% เต็ม แต่สิ่งที่หลักจิตวิทยาสามารถช่วยได้ก็คือเมื่อผู้ป่วยมีความรู้สึกทางจิตใจที่ดีขึ้น เขาก็จะรู้สึกว่าโรคร้ายต่างๆ ที่เขาเป็นอยู่มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เมื่อเขาคิดได้แบบนี้มันก็จะทำให้รู้สึกว่าเขาพร้อมที่จะต่อสู้กับความเลวร้ายของโรคต่างๆ ต่อไป เมื่อคนเรามีกำลังใจมันก็ดีมากเกินกว่ายาชนิดใดที่จะเข้ามาช่วยรักษาได้ ซึ่งผลจากการใช้จิตวิทยามันช่วยได้เยอะจริงๆ